UN ยูเอน พลักดันร่างสนธิสัญญาหยุดใช้พลาสติก ฉบับแรกของโลก
ประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติ (UN) จำนวน 170 ประเทศ เห็นพ้องกันให้กำเนิดร่างสนธิสัญญาฉบับแรกว่าด้วยการหยุดใช้พลาสติกที่ทำลายโลกให้หมดสิ้นภายในสิ้นปีหน้า โดยร่างสนธิสัญญาฉบับนี้มุ่งเน้นไปที่การลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง (single-use plastics) ส่งเสริมการใช้วัสดุทางเลือกที่ยั่งยืน และปรับปรุงการจัดการขยะพลาสติกอย่างมีประสิทธิภาพ
สหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในประเทศที่ผลักดันร่างสนธิสัญญาฉบับนี้อย่างแข็งขัน โดยนายจอห์น เคอร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้กล่าวว่า "นี่เป็นก้าวสำคัญในการต่อสู้กับวิกฤตขยะพลาสติกของโลก"
ร่างสนธิสัญญาฉบับนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจา โดยคาดว่าจะมีการลงนามในการประชุม UN Environment Assembly ในเดือนมีนาคม 2566 หากร่างสนธิสัญญาฉบับนี้มีผลบังคับใช้ ก็จะเป็นสนธิสัญญาฉบับแรกของโลกที่มุ่งเน้นไปที่การหยุดยั้งวงจรพลาสติกอย่างจริงจัง
ร่างสนธิสัญญาฉบับนี้กำหนดเป้าหมายในการลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งลง 50% ภายในปี 2573 และกำจัดพลาสติกทั้งหมดภายในปี 2593 นอกจากนี้ ร่างสนธิสัญญายังกำหนดให้ประเทศสมาชิกกำหนดเป้าหมายและแผนงานเฉพาะสำหรับการจัดการขยะพลาสติก
ข้อเสนอในร่างสนธิสัญญาฉบับนี้ได้รับการตอบรับจากกลุ่มสิ่งแวดล้อมและนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม โดยระบุว่าเป็นก้าวสำคัญในการแก้ไขปัญหาขยะพลาสติก อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มธุรกิจบางกลุ่มที่คัดค้านร่างสนธิสัญญาฉบับนี้ โดยระบุว่าจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมพลาสติก
การเจรจาร่างสนธิสัญญาฉบับนี้คาดว่าจะมีความท้าทาย เนื่องจากมีประเด็นต่างๆ ที่ต้องหารือร่วมกัน เช่น การกำหนดเป้าหมายและแผนงานเฉพาะสำหรับแต่ละประเทศ การยกเว้นบางประเภทของพลาสติก และการสนับสนุนทางการเงินสำหรับประเทศกำลังพัฒนา
อย่างไรก็ตาม หากร่างสนธิสัญญาฉบับนี้มีผลบังคับใช้ ก็จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการต่อสู้กับวิกฤตขยะพลาสติกของโลก
แหล่งที่มา : https://aroundofus.com/new-4/